คำพูดนี้เป็นความจริง ไม่มีห นี้เป็นลาภอันประเสริฐ

1. คุณต้องให้ความสนใจกับรายละเอียดการใช้จ่าย

ในแต่ละวันคุณควรจะต้องสังเกตว่าเ งินที่คุณใช้จ่ายไปในแต่ละวันนั้น คุณต้องเสี  ยไปกับอะไร

อย่ างไรบ้าง และทำการจดบันทึกความเคลื่อนไหวของเงิ นที่เสี ยไปทั้งหมดด้วย โดยการจดบันทึก

รายรับ – รายจ่ายที่คุณจำเป็นต้องใช้เ งินในแต่ละวัน และคัดเลือกค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และไม่จำเป็น

ออกจากกัน เพื่อให้คุณสามารถควบคุมรายจ่ายในอนาคตได้ นอกจากนี้การจดบันทึกก็ยังเป็นเครื่อง

ยืนยันการใช้จ่ายเงิ นแต่ละครั้งไปด้วย หากคุณมีครอบครัวความไว้เนื้ อเชื่อใจเป็นสิ่งสำคัญหากคู่

ของคุณไม่เข้าใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เสี ยไปในแต่ละเดือนอาจเกิดความไม่ไว้ใจและไม่เชื่อใจกัน

ก็ได้ นั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวแต กแยกเช่นกัน

2. รู้จักความต้องการของตัวเอง

คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับความต้องการของคุณเองว่าในแต่ละวันนั้นคุณต้องการใช้จ่ายอะไรบ้าง

และทำตารางเรียงออกมาเพื่อหาสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงิ นในช่วงนี้ เพื่อไม่ให้คุณก่อห นี้สินไปกับ

สิ่งที่ไม่จำเป็นมากเกินไป และคุณควรให้ความสำคัญกับเงิ นทุ กบาททุ กสตางค์ที่คุณหามาได้ด้วย

เพราะหากคุณไม่เห็นคุณค่าของเงิ นเมื่อใด คุณก็จะใช้มันอย่ างไม่คิดเมื่อนั้น ทั้งนี้ เมื่อคุณรู้ถึงจุด

ที่คุณต้องการแล้ว อย่ างเช่น ต้องการมีบ้าน มีรถ มีโทรศัพท์เครื่องใหม่ ฯลฯ ให้คุณเรียงลำดับ

ความสำคัญจากมากสุดไปน้อยสุด และมองหาความต้องการของคุณว่าคุณต้องการสิ่งใดก่อน

ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณเป็นห นี้ทีละอย่ างไม่ควรสร้างห นี้พร้อมกัน เพ ราะนั่นจะทำให้คุณเป็นห นี้ไป

เรื่อย ๆ จนไม่สามารถหามาชำระได้หมด และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คุณไม่สามารถหลุดพ้น

ความจนไปได้อีกด้วย

3. วางแผนการเงิ นให้ดี

เป็นการบริหารเงิ นที่มีให้เกิดประโยชน์และสามารถมีเงิ นเหลือไว้ใช้ในอนาคตอีกด้วย การวาง

แผนก็ไม่ย าก โดยการกำหนดอัตราส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ ว่าคุณต้องการทำอะไรเท่าไหร่ใน

แต่ละเดือน อย่ างเช่น เงิ นออม 20%, เงิ นที่จำเป็นต้องใช้ 50% และเงิ นที่ใช้ห นี้รวมกับค่าใช้

จ่ายที่ไม่จำเป็นอีก 30% เป็นต้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาการวางแผนทางการเงิ นของ

คุณเอง ว่าคุณต้องการรูปแบบการบริหารเงิ นอย่ างไร เราเพียงแนะนำให้คุณทำตามเท่านั้น

แต่ขอบอกไว้เลยว่าหากคุณ ใช้จ่ายหนักไปทางใดทางหนึ่ง รับรองว่าคุณจะไม่ได้เป็นคนร วย

ที่ไม่มีห นี้ได้อย่ างแน่นอน ฉะนั้นคุณควรมีการวางแผนให้รอบครอบ และคิดทบทวนให้ดีก่อน

ตัดสินใจทำอะไรลงไป ไม่ควรจ่ายเงิ นไปตามความต้องการของตนเองเพียงอย่ างเดียว ทุ กครั้งที่มีค่าใช้จ่ายหรือว่า

ต้องการซื้อสิ่งใดคุณควรมีการคิดทบทวนประโยชน์ที่ซื้อมาและจำนวนเงิ นว่าของที่คุณซื้อ

คุ้มค่ากับจำนวนที่คุณต้องเสี ยไปหรือไม่ การที่คุณคิดก่อนตัวสินใจซื้อจะทำให้คุณไม่เสี ย

เ งินกับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์หรือว่าซื้อมาแล้วไม่รู้จะนำไปทำอะไร หากเป็นอย่ างนี้บ่อย ๆ

จะทำให้คุณก่อห นี้โดยไม่รู้ตัวได้ อย่ างเช่น

หากคุณต้องนำเ งินจำนวนหนึ่งเพื่อไปลงทุนประกอบกิจการ แต่คุณดันไปพบกับโทรศัพท์

มือถือที่มีราคาแพงเสี ยก่อน และเอาเงิ นจำนวนนี้ไปใช้ โดยคุณได้เพียงมือถือที่คุณก็มีอยู่แล้ว

ทำให้เงิ นที่เสี ยไปไม่ได้ประโยชน์อย่ างที่ควรเป็น ดังนั้น หากคุณมีการคิดกว่าว่าอย่ างไหนมี

ความจำเป็นต้องใช้เงิ นจำนวนนี้ก่อน จะทำให้คุณสามารถประกอบกิจการและสร้างผลกำไร

ได้ตามเป้าหมายที่คุณต้องการ เมื่อถึงตอนนั้นคุณจะซื้อโทรศัพท์ตอนไหนก็ได้ เนื่องจาก

คุณมีเงิ นที่มากขึ้นแล้วนั่นเอง

ขอบคุณที่มา : meokayna